อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ห่างจากตัวเมืองธานีประมาณ 12 กิโลเมตร ได้รับการยกย่องเป็น “มรดกโลก” จาก UNESCO เมื่อธันวาคม 2534 มีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช กำแพงเมืองสุโขทัย วัดมหาธาตุ วัดชนะสงคราม นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานนอกกำแพง เช่น เขื่อนสรีดภงค์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง การเดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ หรือรถประจำทางจากสถานีขนส่งสุโขทัย และยังมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่มีจำลองโบราณสถาน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสุโขทัยเข้าไปด้วยการเดินทางสะดวก.

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยตั้งอยู่ในเขตตำบลศรีสัชนาลัย สารจิตร หนองอ้อ และท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ตัวเมืองโบราณศรีสัชนาลัย อยู่ในหมู่บ้านพระปรางค์ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร เรื่องราวของเมืองศรีสัชนาลัยมีความสำคัญเนื่องจากภูมิประเทศที่ตั้งเป็นที่ราบและเชิงเขา พื้นที่อุดมสมบูรณ์และมีธรรมชาติป้องกันที่ดี ในประวัติศาสตร์ที่สำคัญ พบว่ามีชุมชนที่เข้ามาอยู่ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 เป็นต้นมา แสดงถึงการเป็นชุมชนร่วมสมัยและพัฒนาต่อมาเป็นเมืองร่วมสมัยลพบุรีในภาคกลาง และเป็นหลักฐานของวัฒนธรรมร่วมสมัยลพบุรีในภาคกลาง ประเด็นทางประวัติศาสตร์ของศรีสัชนาลัยยังได้รับความสำคัญจากการเป็นเมืองลูกหลวงของสุโขทัย และได้มีผลงานทางการปกครองร่วมกันกับสุโขทัยในประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ของอาณาจักร ในส่วนของโบราณสถานที่สำคัญ มีทั้งภายในและภายนอกกำแพงเมือง รวมทั้ง 215 แห่งที่มีความสำคัญ ได้แก่ วัดช้างล้อม, วัดเจดีย์เจ็ดแถว, วัดนางพญา, วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่, วัดสวนแก้ว, วัดกุฎีราย, เตาทุเรียงบ้านป่ายาง, วัดสวนสัก, วัดป่าแก้ว, วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ, วัดยายตา, วัดเขาใหญ่บน, และวัดเขาใหญ่ล่าง เป็นต้น

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก เป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรก และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533

ศูนย์เรียนรู้โครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย

ส่วนหนึ่งของพื้นที่กว้างใหญ่นับร้อยไร่ของสนามบินสุโขทัยใน อ. สวรรคโลก ถูกจัดสรรเป็นพื้นที่ทำเกษตรกรรมไร้สารพิษในชื่อ “โครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย” โครงการนี้เริ่มขึ้นในปี 2542 โดยนายแพทย์ปราเสริฐ และ วัลลีย์ ปราสาททองโอสถ แห่งบริษัทการบินกรุงเทพฯ นำทฤษฎีเกษตรอินทรีย์มาปฏิบัติในโครงการฯ อย่างเช่นการไม่ใช้สารเคมีในการปลูกพืช ไม่ปลูกพืชตัดต่อพันธุกรรม โดยทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้การดูแลของนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ ระยะแรกที่ดำเนินโครงการเป็นการผลิตให้คนในองค์กรบริโภคเท่านั้น ต่อมาเมื่อมีผลผลิตมากขึ้นจึงนำออกจําหน่าย จากลานจอดรถของโครงการฯ เดินไปไม่ไกลจะถึงโรงเรือนหลังคาจากขนาดใหญ่ซึ่งเป็นลานต้อนรับและจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์โดดเด่นคือ “ข้าวหอมสุโข” ซึ่งคัดพิเศษเฉพาะข้าวเมล็ดสมบูรณ์บรรจุในถุงสุญญากาศ มีทั้งข้าวกล้องหอมดำสุโขทัย ข้าวกล้องหอมแดงสุโขทัย ข้าวกล้องหอมผสม และข้าวซ้อมมือ หากเดินทางมาเหนื่อยๆ ต้องดื่ม “น้ำใบข้าว” รสหวานหอมชื่นใจ ทำจากใบข้าวอ่อนๆ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และถ้าชอบไอศกรีม เขาก็ทำเป็นไอศกรีมใบข้าวให้ได้ลิ้มลอง ที่จุดนี้ยังมีผักผลไม้อย่างผักสลัด กล้วย มะละกอ มะม่วงมหาชนก ฟักทอง วางจำหน่าย รวมถึงไข่เป็ดด้วย ถ้าหิว ทางโครงการฯ มีอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบไร้สารพิษบริการ โดยมีเมนูเด็ดคือสลัดผักออร์แกนิก ผักสดกรอบราดน้ำสลัดสูตรโฮมเมด อร่อยเพื่อสุขภาพปลอดสารเคมีจริง ๆ เมนูหนักท้องหน่อยก็เป็นข้าวกล้องร้อนๆ หอมกรุ่น เสิร์ฟคู่ไข่เจียวผักโขมเหลืองฟูน่ากิน อร่อยเข้ากันดีกับน้ำพริกกะปิแนมผักสดๆ ที่เพิ่งเก็บมาจากสวน ทั้งแตงกวา ถั่วฝักยาว ถั่วพู และถั่วฝักยาวสีม่วงที่นำไปผัดน้ำมันหอย เพียงเท่านี้มื้อนี้ก็สุดแสนอร่อยและเปี่ยมประโยชน์แล้ว

หากสนใจชมแปลงเกษตร ให้เดินจากลานต้อนรับมาอีกเล็กน้อยก็จะถึงลานตากข้าวเปลือก ยุ้งข้าว เล้าเป็ด และแปลงผักสลัดในโรงเรือนกางมุ้ง ทั้งมีการจัดแสดงเครื่องไม้เครื่องมือของชาวนาไทยในอดีต เช่น เครื่องสีข้าว ครกตำข้าว ซึ่งล้วนแต่ใช้พละกำลังของเราแทนเครื่องจักรกล นักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะและสนใจวิถีชีวิตชาวนาไทย สามารถพักในโครงการฯ ได้ มีที่พักหลายรูปแบบ พร้อมกิจกรรมให้เรียนรู้ ตั้งแต่การดำนา ถือคันไถบังคับควายให้เดินไถนา เกี่ยวข้าวด้วยเคียว ไปจนถึงฝัดสีข้าวเป็นเมล็ดข้าวสาร รวมทั้งคัดแยกคุณภาพข้าวด้วยมือก่อนบรรจุถุง